7 ข้อที่เพิ่มโอกาสให้เพลงที่แต่งเป็นไวรัล: เทคนิคจากมุมมองนักแต่งเพลงยุคดิจิทัล
ในยุคที่โซเชียลมีเดียกลายเป็นเวทีหลักของคนฟังเพลง เพลงหนึ่งเพลงสามารถกลายเป็นกระแสได้ในชั่วข้ามคืน คำถามคือ…เราจะทำอย่างไรให้เพลงที่แต่งมีโอกาส “เป็นไวรัล” มากขึ้น?
เพลงดีไม่ใช่แค่เรื่องของฝีมือ แต่มันคือเรื่องของ “การเชื่อมโยง” “ความจดจำ” และ “การส่งต่อ”
ในฐานะนักแต่งเพลง เราไม่ได้แค่เล่าเรื่องผ่านเสียงและคำ แต่เรากำลังสร้าง “ประสบการณ์” ให้คนฟังอยากบอกต่อ
วันนี้ผมจะมาแชร์ 7 ข้อที่ช่วยเพิ่มโอกาสให้เพลงของคุณกลายเป็นเพลงฮิตที่แชร์กันทั่วโลกออนไลน์
1. เนื้อร้องต้องตรงจริตคนฟัง
เพลงจะดังไม่ได้ ถ้าไม่มีใครรู้สึกว่า “เพลงนี้มันเขียนถึงเรา”
การเขียนเนื้อเพลงให้โดนใจคือหัวใจสำคัญที่สุด
ลองนึกถึงเพลงที่พูดแทนคนอกหัก คนที่ยังลืมไม่ได้ คนที่พยายามเข้มแข็งแต่ในใจกำลังพัง
ไม่ใช่แค่แต่งเพราะ แต่ต้องแต่งให้ “เข้าใจ” และ “พูดแทนใจ”
เพลง “ดึงดัน” หรือ “ขอโทษที่เป็นแบบนี้” คือหลักฐานที่ดีว่า ถ้าเพลงพูดแทนคนได้ มันก็พร้อมจะถูกแชร์
2. ท่อนฮุกต้องจำง่าย ร้องตามได้
เพลงไวรัลส่วนใหญ่มาจาก “ท่อนฮุก” ที่ติดหู
คำแนะนำคือ:
ใช้ประโยคสั้น ๆ ที่มีจังหวะจำง่าย
ทำให้คนร้องตามได้ตั้งแต่รอบแรก
ซ้ำคำหรือใช้วลีเด็ด เช่น “ไม่ไหวบอกไหว” หรือ “รักก็รักอยู่”
หากท่อนฮุกร้องตามได้ในเวลาไม่ถึง 10 วินาที เพลงคุณมีโอกาสติดหู และติดเทรนด์ได้ไม่ยาก
3. ความยาวที่เหมาะกับแพลตฟอร์ม
4. ซาวด์หรือเสียงที่ไม่เหมือนใคร
ซาวด์ที่ไม่เหมือนใครคือสิ่งที่ทำให้เพลงคุณโดดเด่น
อาจจะเป็นเสียงอินโทรที่แค่ได้ยินก็รู้ว่าเป็นเพลงนี้
หรือใช้เครื่องดนตรีแปลก ๆ เสียงร้องสไตล์เฉพาะ หรือแม้แต่การตัดต่อเสียงให้ดู “แหวก”
ตัวอย่างเช่น เพลงของ Tilly Birds ที่ใช้กีตาร์เท่ ๆ กับการร้องสไตล์เฉพาะตัว
หรือ “Lalisa” ของลิซ่าที่ผสมเสียงเครื่องดนตรีไทยเข้าไปใน K-pop ได้อย่างลงตัว
5. บริบทที่ทำให้คนอยากแชร์
เพลงจะดังขึ้นได้อีก ถ้ามันมี “เรื่องเล่า”
การผูกเพลงเข้ากับช่วงเวลา เหตุการณ์ หรืออารมณ์ในสังคม จะช่วยให้คนอยากแชร์มากขึ้น
เช่น
เพลงที่พูดถึงวันวาเลนไทน์ ในช่วงกุมภาพันธ์
เพลงเศร้าที่พูดถึงการสูญเสีย ในช่วงคนกำลังอินกับซีรีส์แนวดราม่า
หรือแม้แต่เพลงปลุกใจตอนช่วงสอบ, ช่วงเปิดเทอม
ดนตรีที่มากับบริบท จะเข้าถึงใจคนได้ลึกกว่าดนตรีลอย ๆ ที่ไม่มีจุดจับ
6. มีอะไรให้คนทำร่วมกับเพลงได้
ยุคนี้ เพลงที่ดังมักไม่ใช่แค่เพลงที่คนฟัง แต่คือเพลงที่ “คนเล่นต่อได้”
ลองออกแบบเพลงให้คนสามารถทำอะไรกับมันได้ เช่น
ทำท่าเต้นสนุก ๆ
ทำมุกคลิปตลก
เล่น cover ได้ง่าย
ใช้ทำ challenge
ตัวอย่างที่ชัดคือ เพลง “วาดไว้” ที่ท่อนฮุกทำให้คนหยิบไปใช้ในคลิป cover, TikTok challenge และไลฟ์สดมากมาย
7. มีการจัดการหลังบ้านที่ดี
เพลงดีแต่ไม่มีคนเห็น = ไวรัลยาก
สิ่งที่ต้องทำหลังจากแต่งเพลงเสร็จ:
ลง YouTube / Spotify / TikTok / IG Reels / Facebook Reels
ส่งให้เพจรีวิวเพลง หรือ Influencer ใช้
ทำ lyric video หรือ story behind the song
วางแผนโปรโมตให้กระจายบนหลายแพลตฟอร์ม
อย่าลืมทำ metadata ให้ถูกต้อง เช่นชื่อเพลง, ศิลปิน, คำอธิบายใต้คลิป เพื่อให้ SEO บนแพลตฟอร์มรู้ว่าเพลงนี้เกี่ยวกับอะไร
สรุป: เพลงไวรัลไม่ใช่เรื่องบังเอิญ
การที่เพลงหนึ่งจะไวรัล มันคือการ “สร้างโอกาส” ให้เกิดการแชร์ซ้ำ ๆ
ในฐานะนักแต่งเพลง เรามีอาวุธอยู่ในมือ นั่นคือ “เรื่องเล่า” ผ่านเสียงและคำ
ถ้าคุณสามารถเขียนเพลงที่พูดแทนใจ สร้างท่อนฮุกที่ติดหู บวกกับซาวด์ที่ไม่เหมือนใคร และมีการโปรโมตที่รอบด้าน เพลงของคุณก็อาจกลายเป็นเพลงไวรัลเพลงต่อไปได้
ถ้าใครอ่านมาถึงตรงนี้ แสดงว่าคุณสนใจในเนื้อหานี้ ผมจึงอยากเสนอเนื้อหาที่ใกล้เคียงให้คุณไปศึกษาต่อครับ: