6 สิ่งที่ AI แต่งเพลงภาษาไทย ช่วยให้ได้ฮุคติดหู
วันนี้ AI ได้เข้ามาเปลี่ยนแปลงแทบจะทุกวงการบนโลกแล้วเรียบร้อย ไม่ว่าจะเป็นโปรแกรมเมอร์ระดับจูเนียร์ ที่เขียนโค้ดสู้ AI ไม่ได้ หรือ การที่ใส่ประโยคสองประโยคแล้วกด enter คุณจะได้เพลงพร้อมนักร้องและเครื่องดนตรีเป็นของคุณเอง มันน่าทึ่งใช่ไหมล่ะ และผมบอกเลยว่าถ้าคุณยังไม่โดดเข้ามาเรียนรู้เรื่องพวกนี้ พรุ่งนี้คุณอาจจะตามเพื่อนๆไม่ทัน และในอีก 6 เดือนคุณอาจจะต้องย้ายงาน (ไม่ได้ขู่ให้กลัวแต่ว่าทุกวันนี้โลกมันเร็วขนาดนี้เลยครับ)
แต่การที่คุณมาเจอบทความนี้แปลว่าคุณยังไงได้เปรียบใครอีกหลายคนที่ยังไม่รู้เรื่องนี้ครับ ขอให้สบายใจได้ผมจะพาคุณไปรู้จักกับวงการ AI เบื้องต้น พร้อมวิธีการลงมือทำดังนั้นติดตามเว็ปเราและบทความต่อๆไปนะครับ
มาเริ่มพูดถึงปัญหาที่อาชีพนักแต่งเพลง โดยเฉพาะนักแต่งเพลงมือใหม่มักเจอ ถ้าคุณใช้เวลาเยอะกับการหาฮุค (Hook) แต่ยังไม่ “ติดหู” พอ ลองให้ AI แต่งเพลงภาษาไทย เป็นผู้ช่วยระดมไอเดีย → กลั่น → ทดสอบแบบมีระบบ คุณจะได้เมโลดี้และคำร้องที่ร้องตามง่ายขึ้น ภายในเวลาสั้นลง เพียงแค่หายใจ 2-3 ทีก็ได้ฮุคแล้ว มันไวขนาดนั้นเลยแหละ

1) สร้างเนื้อเพลงฮุคหลายเวอร์ชันใน 5 นาที
เป้าหมายคือได้ hook 1–2 บาร์ หลายแบบให้เลือก (T-Pop/อินดี้/ลูกทุ่ง/ป๊อปร็อก) ในคีย์และ BPM ที่กำหนด แล้วค่อยคัดเวอร์ชันที่ร้องง่าย จำทวนได้
เกณฑ์เลือก: ช่วงเสียงไม่กว้างเกินไป (ประมาณ 5–8 โน้ต), มีจุด “ขึ้นรูป” จำง่าย, ร้องวนได้
พรอมต์พร้อมใช้:
“ช่วยสร้างเนื้อเพลงฮุค 1–2 บาร์ คีย์ G major, 92 BPM โทนสดใส สไตล์ T-Pop จำนวน 5 เวอร์ชัน เน้นร้องง่ายและจำง่าย”
คือเราพิมพ์เพียงแค่ประโยคเดียวนี้ ai ก็สามารถสร้างเนื้อร้องทั้งหมด 5 ชุดมาให้เราเลือกได้แล้วครับ เป็นการย่นระยะเวลาได้มากเลยครับ สำหรับคนที่ไอเดียตันๆ หรือนึกอะไรไม่ออก วิธีนี้ก็ช่วยเพิ่มความคิดสร้างสรรค์ได้อย่างดีทีเดียวเลยครับ
2) คำไทย + วรรณยุกต์: จับสัมผัสให้ร้องลื่นปาก
ภาษาไทยคือหนึ่่งในภาษาที่แต่งเพลงได้ยากที่สุดภาษานึงเลยครับ เพราะภาษาไทยมีวรรณยุกต์และจังหวะเฉพาะ คำที่ “ชน” โน้ตสูง/ตก จะร้องฝืนปาก ให้ AI เสนอ คำแทน ที่ยังคงความหมายและอารมณ์ แต่เข้ากับทำนองมากขึ้น
เช็กจำนวนพยางค์/ตำแหน่งเน้นคำ/สัมผัสนอก-ใน
พรอมต์พร้อมใช้:
“แนะนำคำไทย 10 คำแทน ‘คิดถึง’ โทนอุ่น วรรณยุกต์เหมาะกับโน้ตสูง (คีย์ G, 4/4) พร้อมตัวอย่างวรรคสั้น ๆ ที่เข้ากับฮุค”
นึกภาพตามง่ายๆถ้าเราทำด้วยตัวเองเราจะต้องมานั่งนับนิ้ว นับพยางค์ และหาคำที่ลง แต่ถ้าเราใช้วิธีนี้คือเขานับมาให้เลย ซึ่งผมขอบอกเลยว่า AI ถนัดมากๆเรื่องการคำนวน นับเลข หรืออะไรที่เกี่ยวกับตัวเลขซับซ้อนๆ ส่วนตัวผมเคยลองเทสความสามารถโดยใส่เลขหวยย้อนหลังแล้วให้มันทายว่างวดต่อไปจะออกอะไร ซึ่งบอกเลยว่าแล้วคุณจะทึ่ง 🤣
3) จับคู่เมโลดี้กับคอร์ด (Harmony Matchmaking)
หัวข้อนี้อาจจะฟังดูเอ้ย อ่านดู งงๆสำหรับมือใหม่ซะหน่อย แต่อย่าเพิ่งแพนิคไปครับ ภาษาบ้านๆอย่างเราๆก็คือการใส่คอร์ดให้กับเพลงนั่นแหละครับ ถ้าให้เห็นภาพก็เวลาเราเล่นเพลงไหนก็ตาม เรามักจะเปิดดูคอร์ดเพลงในเน็ต แล้วมันจะมีเนื้อเพลงพร้อมตัวอักษรภาษาอังกฤษข้างบนใช่ไหมล่ะ นั่นแหละครับพาร์ทนี้เราจะมาใส่ตัวอักษรข้างบนกัน ฮ่าๆ
หาตำแหน่งที่เหมาะสมในการเปลี่ยนคอร์ด เพื่อให้เพลงที่แต่งโดยมือใหม่อย่างพวกเราฟังดูดีที่สุด
พรอมต์พร้อมใช้:
“แนะนำ คอร์ด สำหรับเนื้อเพลง …… พร้อมบอกตำแหน่งว่าแต่ละคอร์ดควรจะใส่ตรงไหน เพื่อให้เพลงร้องออกมาแล้วลื่นไหลที่สุด พร้อมบอกเหตุผลประกอบว่าทำไมต้องใส่แต่ละตำแหน่ง”.
สำหรับ …… ให้ใส่เนื้อเพลงเราเข้าไปเลยครับ เดี๋ยวเขาจะประมวลผลออกมาให้เราเลยว่าควรใส่ตรงไหน แจ่มใช่ไหมล่ะ
4) Visual ก็สำคัญไม่แพ้กันในการที่จะทำให้ฮุคติดหู
ถ้าคลิปคุณเปิดมาหน้าดำๆ คิดว่าโอกาสที่เพลงคุณจะดังหรือเป็นไวรัลจะลดลงแค่ไหนครับ สมัยนี้อย่างที่ทราบใครๆก็ชอบดูภาพ นั่นเป็นเหตุผลที่ Tiktok ถึงเป็นแพลตฟอร์มยอดนิยมสำหรับคนไทย
-
เทคนิค: ใช้ AI สร้าง Storyboard ในการ Gen VDO
-
พรอมต์พร้อมใช้:
“สร้างเนื้อเรื่องบทละครเหมือน mv เพลง โดยมีเนื้อเพลงดังนี้ ….. ช่วยออกแบบแนวคิดหรือไอเดียของบทมาให้เลือกสัก 5 พล็อต”
5) วิเคราะห์ Reference เพลงไทยอย่างปลอดภัย (ไม่ลอก)
ขอให้ AI สกัด “คุณลักษณะ” ของฮุคจากเพลงอ้างอิง (เทมโป, ไดนามิกคำ, ช่วงเสียง, พฤติกรรมสัมผัส) แล้วสร้างแนวทางใหม่จาก คุณลักษณะ ไม่ใช่คัดลอกทำนอง/เนื้อร้อง.
พรอมต์พร้อมใช้:
“สรุป 5 คุณลักษณะของฮุค T-Pop เพลงตัวอย่าง (ห้ามสร้างเมโลดี้ซ้ำ) แล้วเสนอแนวทางฮุคใหม่ 2 แบบในคีย์/ BPM เดียวกัน”.
6) A/B Testing ฮุคแบบรวดเร็ว: คำ–ทำนอง–อารมณ์
แตกเวอร์ชัน A/B/C (เช่น เพิ่มคำซ้ำ, ขยับ BPM, ลดช่วงเสียง, เปลี่ยนโทนคำหลัก) ทดลองกับเพื่อน/ทีม แล้วบันทึกเหตุผลที่ชนะ
เกณฑ์ชนะ: ร้องตามได้ใน 30 วินาที, จำวลีหลักหลังฟัง 1 รอบ
พรอมต์พร้อมใช้:
“แตกฮุคนี้เป็น 4 เวอร์ชัน: (1) เพิ่มคำซ้ำ, (2) เร่ง BPM +6, (3) ลดช่วงเสียง, (4) เปลี่ยนวรรณยุกต์คำหลัก พร้อมบอกเหตุผลเลือกแต่ละเวอร์ชัน”
ข้อนี้ถ้าใครไม่คุ้นกับ A/B Testing ผมจะอธิบายให้เข้าใจง่ายๆคือ การที่เราได้ต้นแบบมา 1 ตัว เช่น มือถือ แล้วเราอยากรู้ว่าอะไรมีผลให้ขายดีขึ้นหรือแย่ลงบ้าง เราก็เลยเอามือถือที่ผลิตมาตัวแรกไปใส่สีเขียว สีแดง แล้วลองเอามาขายดูว่าตัวไหนขายดีสุด ถ้ายอดขายเท่ากันหมดแปลว่าเรื่องสีไม่เกี่ยวข้องกับยอดขาย เราก็ไปหาเทสอย่างอื่นต่อครับ
Hook Sprint 30 นาที (เวิร์กโฟลว์ทำงานจริง)
0–5 นาที: สร้างเมโลดี้ฮุค 5 แบบ
5–10 นาที: คัด 2 แบบ + ทดลอง 2–3 progression
10–20 นาที: เกลาคำไทย/สัมผัส + แมพคำกับจังหวะ
20–25 นาที: ทำ A/B 3 เวอร์ชัน
25–30 นาที: อัดเดโม่ลูป 8 บาร์ (ฮัม/ร้องจริง)
สำหรับเรื่องนี้ผมแค่อยากเปรียบเทียบให้เห็นว่าถ้าเราทำเองโดยไม่ใช้ AI จะเป็นไปได้ยากมากที่จะจบใน 30 นาที แค่ข้อแรก การสร้างเมโลดี้ฮุค 5 แบบ ก็น่าจะเป็น ชั่วโมงแล้วครับ แต่ AI เขาคิดได้ภายในไม่กี่วิ (เกินไปจริงๆ)
สรุปเช็คลิสต์ “ฮุคติดหู” ก่อนปล่อย
วลีหลักชัด ร้องตามได้ภายใน 30 วินาที
วรรณยุกต์ไม่ชนโน้ตสูง/ตก
ช่วงเสียง 5–8 โน้ต (พอดีกับนักร้องส่วนใหญ่)
มีจุด resolve ที่ทำให้ “ลงตัว”
ทดสอบ A/B แล้วมีเหตุผลเลือกเวอร์ชัน
FAQ
ถาม: ใช้ AI แต่งเพลงภาษาไทย จะทำให้เพลงเหมือนกันหมดไหม?
ตอบ: ไม่—ผลลัพธ์ขึ้นกับโจทย์/เรฟเฟอเรนซ์/การคัดเลือกของคุณ AI แค่ช่วยแตกไอเดียและจัดระบบคิด
ถาม: ต้องจูนเสียงร้องก่อนทดสอบฮุคไหม?
ตอบ: ไม่จำเป็น แต่ จูนเสียงร้อง เบื้องต้นช่วยให้ฟังภาพรวมได้ชัดขึ้น (แนะนำลิงก์ไปหน้า “จูนเสียงร้อง”)
ถาม: มือใหม่เริ่มยังไง?
ตอบ: เริ่มจาก progression ง่าย + ฮุค 1 บรรทัด แล้วค่อยขยายเป็นเวอร์ชัน A/B