5 เทคนิคร้องยังไงให้เสียงเพราะ

ทุกคนคงเคยดูพวกรายการประกวดร้องเพลง หรือแม้กระทั่งนักร้อง cover ตามยูทูปกันมาบ้างแล้วใช่ไหมครับ รู้หรือไม่ว่าเสียงเพราะๆที่เราฟังๆกันนั้น แท้จริงแล้วไม่ได้มาจากพรสวรรค์เพียงอย่างเดียว แต่เกิดจากการฝึกฝนอย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอด้วยครับ ซึ่งข่าวดีก็คือ คุณเองก็สามารถร้องเพลงให้เพราะได้ครับ

วันนี้เราจะมาพูดคุยถึง 5 เทคนิคง่ายๆกันก่อน ที่ใครๆก็ทำได้ 5 เทคนิคที่จะช่วยให้คุณร้องเพลงได้เพราะขึ้น ถ้าพร้อมแล้วไปลุยกันเลยครับ

1. หายใจอย่างถูกวิธี - การร้องเพลงจำเป็นต้องมีลมหายใจที่มั่นคง

ภาพ infographic โชว์วิธีการหายใจที่ถูกต้องว่าต้องหายใจจากกระบังลม

เสียงที่ดี เริ่มต้นจาก “ลมหายใจ”

เวลาร้องเพลงเราจำเป็นต้องฝึกการหายใจแบบใช้กระบังลมครับ โดยหายใจเข้าลึกๆให้ท้องพอง จริงๆเรื่องพวกนี้มันอธิบายด้วยตัวอักษรยากมากๆเลยครับ ผมว่าทางที่ดีไปเสิร์ชยูทูปเพิ่มเติมน่าจะเจอคลิปสอนหายใจอีกเพียบเลยครับ แต่เดี๋ยวผมจะแปะเทคนิค และคลิปตัวอย่างไว้ให้นะ

เทคนิคฝึก: ลองวางมือบนหน้าท้อง หายใจเข้าทางจมูกให้ท้องพอง แล้วปล่อยลมหายใจออกช้าๆทางปาก

Link: 5 เทคนิคร้องยังไงให้เสียงเพราะ เทคนิคที่ 1

2. วอร์มเสียงก่อนร้อง - กีฬาทุกชนิดต้องวอร์มอัพ ร้องเพลงก็เช่นกัน

ถ้าใครเคยเล่นกีฬา หรือเข้ายิม เราต่างรู้กันดีว่า ก่อนจะทำอะไร เรามักจะต้องวอร์มอัพก่อน ให้กล้ามเนื้อได้ยืด เวลาออกกำลังจะได้ไม่อักเสบ หรือมีปัญหาครับ การร้องเพลงก็เช่นกัน ถ้าเราไม่ได้มีการยืดเส้นเสียง แล้วไปร้องเพลงเลย อาจจะทำให้เส้นเสียงเกิดการอักเสบได้ครับ ยิ่งมือใหม่ยิ่งมีโอกาสอักเสบสูงมากเพราะเราไม่รู้วิธีการร้องอย่างถูกวิธีด้วยครับ

วิธีง่ายๆ:

  • ฮัมเบาๆ (humming) เป็นวงกลม

  • ลากเสียง “มมมม…” หรือ “อาาาา…” ไล่สเกลเบาๆ

  • ใช้แอพวอร์มเสียง เช่น Vocal coach by Singsharp

เสริมให้สำหรับคนที่อยากได้แบบฟรีๆ ในยูทูปก็มีอีกเช่นกันครับ ให้เสิร์ชประมาณว่า วอร์มเสียง เดี๋ยวก็เจอครับ

Link: 5 เทคนิคร้องยังไงให้เสียงเพราะ เทคนิคที่ 2

3. รู้สึกถึงสิ่งที่เรากำลังต้องการจะสื่อ

สังเกตุไหมว่าเวลาเราดูหนังหรือดูละคร ทำไมเรามักจะรู้สึกว่า คนนี้เล่นดีจังเลย เพราะว่าเขาถ่ายทอดอารมณ์ได้ถึงพริกถึงขิงยังไงล่ะครับ คำพูด น้ำเสียง สีหน้า แววตา ทุกอย่างมักมีความรู้สึกที่ซ่อนอยู่

แต่กับบทเพลงเราไม่ได้เห็นสีหน้าและแววตา ดังนั้นทุกอย่างจะอยู่ที่น้ำเสียงทั้งหมด ถ้าคุณบอกว่าเศร้า เสียใจ และสามารถทำให้คนฟังรู้สึกแบบนั้นได้ มันจะมีพลังมากแค่ไหนครับลองคิดดู

ฝึกแบบง่าย: ลองอ่านเนื้อเพลงเหมือนบทละคร แล้วค่อยใส่เมโลดี้ทีหลัง จะช่วยให้เข้าใจอารมณ์เพลงมากขึ้น

ผู้หญิงกำลังร้องเพลงต่อหน้าผู้ชมอีกนับพัน เขาร้องแบบเข้าถึงจิตใจคน อาจจะไม่เพราะที่สุด แต่ทัชชิ่งมากๆ

4. ออกเสียงให้ชัด - ไม่อมพนำอยู่ในลำคอ

สำหรับข้อนี้ถ้าเป็นสมัยก่อนสัก 10-20 ปีที่แล้ว เป็นเรื่องที่ค่อนข้างซีเรียสมากๆ ครูสอนร้องเพลงหรือนักวิจารณ์หลายๆท่านตามรายการแข่งร้องเพลง ก็มักจะเน้นเรื่องนี้ว่าเราต้องออกเสียงภาษาไทยให้ชัด เราเป็นคนไทย เป็นต้น

แต่เมื่อกาลเวลามันเปลี่ยนไป ทุกวันนี้เด็กรุ่นใหม่เขาไม่ค่อยซีเรียสกันแล้ว เพลงบางเพลงใส่คำออกเสียงเพี้ยนๆบ้าง ให้มันร้องได้ก็พอ แต่สำหรับผมแล้วถึงแม้ผมจะไม่ใช่สายไทยเดิมจ๋าที่แบบต้อง ร ล ชัดขนาดนั้น แต่ว่า (หลายแต่เหลือเกิน) ผมก็ยังคงรู้สึกว่าการที่เพลงออกเสียงชัดมันเพราะกว่าจริงๆ ไม่ต้องชัดแบบ 100% แต่ 80-90% ต้องมี

5. อัดเสียงร้องแล้วฟังย้อนกลับ

อันนี้ผมว่าเป็นข้อที่สำคัญที่สุดในบรรดา 5 เทคนิคร้องยังไงให้เสียงเพราะ เลยก็ว่าได้ เนื่องจากละครยังต้องการผู้ชม เพลงก็ย่อมต้องการผู้ฟังเหมือนกัน ดังนั้นถ้าเราผันตัวเองเป็นผู้ฟังคนแรก แล้ววิจารณ์อย่างตรงไปตรงมาเพื่อที่จะได้นำคำวิจารณ์ไปแก้ไข ก็ย่อมส่งผลดีจริงไหมล่ะ คงไม่มีใครอยากส่งผลงานที่ไม่ดีให้คนอื่นฟังใช่ม้า

แนะนำ: ใช้แอปบันทึกเสียงหรือสมาร์ทโฟนธรรมดา อัดไว้บ่อยๆ แล้วจดบันทึกจุดที่อยากแก้

สรุป: เสียงเพราะสร้างได้ เริ่มเลยวันนี้!

  • หายใจให้ดี

  • วอร์มเสียงสม่ำเสมอ

  • อินกับอารมณ์

  • พูดให้ชัด

  • ฟังตัวเองอย่างเข้าใจ

ใครฝึกครบ 5 ข้อนี้ รับรองว่าเสียงคุณจะพัฒนาแบบก้าวกระโดดแน่นอน! ว่าแล้วแอดขอตัวไปวอร์มเสียงก่อนนะ

และสำหรับใครที่สนใจเรื่องการแต่งเพลง สามารถอ่านได้ที่นี่ เทคนิคการแต่งเพลงสำหรับมือใหม่